ชะอำ, จ.เพชรบุรี > กิจกรรมท่องเที่ยว |
|
|
|
ภาพโดย thai.tourismthailand.org, www.facebook.com/Pacharaanong Hirunsalee, www.facebook.com/WhiteCloudTravel |
|
|
กิจกรรมท่องเที่ยวใน ชะอำ, จ.เพชรบุรี |
|
|
กิจกรรมท่องเที่ยว |
อ่าวและชายหาด |
|
หาดชะอำ อำเภอชะอำ อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี 41 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายเข้า
ชายหาด ระยะทาง 2 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงของ
จังหวัดเพชรบุรี เดิมชะอำ เป็นเพียงตำ บลหนึ่งขึ้นอยู่กับอำ เภอหนองจอก
แต่ภายหลังที่หัวหินมีชื่อเสียง ที่ดินแถบชายทะเลถูกจับจองหมด เจ้านาย
ชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้นจึงพยายามหาสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ โดยการนำ ของ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ และได้พบว่าหาด
ชะอำ เป็นชายหาดที่สวยงามไม่แพ้หัวหิน ชะอำ จึงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นมา
ชะอำ ได้รับการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้น และยกฐานะเป็นอำ เภอจนปัจจุบัน
การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดขบวนการรถไฟพิเศษนำ เที่ยวกรุงเทพฯ-ชะอำ
ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รายละเอียดติดต่อหน่วย
บริการเดินทาง โทร. 1690
|
|
อ.ท่ายาง |
หาดปึกเตียน อยู่ในท้องที่ตำ บลปึกเตียน ห่างจากหาดเจ้าสำ ราญไปทาง
ใต้ประมาณ 7 กิโลเมตร หรือสามารถเดินทางไปทางถนนเพชรเกษมถึง
อำ เภอท่ายางแล้วเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกคลองชลประทาน สาย 2 ประมาณ
15 กิโลเมตร บริเวณหาดปึกเตียนเป็นหาดทรายขาวสะอาด สามารถเล่น
น้ำได้ และมีรูปปั้นพระอภัยมณี นางผีเสื้อสมุทร สุดสาคร และม้านิลมังกร
ศาลเจ้าแม่กวนอิมและเกาะเต่า นอกจากนั้นยังมีที่พักร้านอาหารและร้าน
ขายของที่ระลึก
|
|
อ.เมืองเพชรบุรี |
หาดเจ้าสำราญ เป็นชายหาดที่เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำ คัญมากตั้งแต่
สมัยโบราณ ตามประวัติเล่ากันว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยเสด็จ
มาที่นี่พร้อมด้วยสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงพอพระราชหฤทัยในความงาม
ของหาดแห่งนี้มาก ทรงประทับแรมอยู่หลายวัน จนกระทั่งชาวบ้านเรียก
หาดนี้ว่า หาดเจ้าสำ ราญ มาจนถึงปัจจุบัน หาดเจ้าสำ ราญเจริญถึงขีด
สุดในสมัยรัชกาลที่ 6 หาดเจ้าสำ ราญมีชื่อเสียงกว่าชายทะเลแห่งใดๆ ใน
เมืองไทยสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ
ให้สร้างพระตำ หนักที่ประทับขึ้น ณ ริมหาดแห่งนี้เรียกว่า พระตำ หนักหาด
เจ้าสำ ราญ สำ เร็จในปีพ.ศ. 2461 ต่อมารื้อไปสร้างใหม่ที่บริเวณอำ เภอ
ชะอำ เรียกชื่อว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน บริเวณหาดมีที่พักและ
ร้านอาหารบริการด้วย
|
|
อ.บ้านแหลม |
แหลมเหลว ห่างจากอำ เภอบ้านแหลมประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทาง
จากบ้านแหลมไปบางตะบูน บริเวณแหลมเหลวเป็นหมู่บ้านของชาวประมง
มีสะพานไม้ทอดผ่านหมู่บ้านและป่าชายเลนไปยังร้านอาหารริมชายทะเล
บริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของลิงฝูงใหญ่ ซึ่งมักออกมาคอยอาหารจากผู้คนอยู่
|
|
อ.บ้านแหลม |
แหลมหลวง หรือ แหลมผักเบี้ย อยู่ในตำบลแหลมผักเบี้ย ห่างจากตัวเมือง
เพชรบุรี 20 กิโลเมตร ตามเส้นทางเดียวกับทางไปหาดเจ้าสำราญ โดยแยก
ซ้ายก่อนถึงหาดเจ้าสำราญเล็กน้อย ลักษณะเป็นหาดทรายมีปลายแหลมยื่น
ยาวออกไปในทะเลถึง 2 กิโลเมตร สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและ
พระอาทิตย์ตก นักท่องเที่ยวสามารถจะนั่งเรือหางยาวไปที่ปลายแหลม
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าเช่าเรือ 500 บาท นั่งได้ 8-10 คน โดย
ติดต่อ ที่องค์การบริหารส่วนตำ บลแหลมผักเบี้ย โทร. 0 3244 1209
|
|
|
|
|
|
|
|
ดำน้ำแบบสนอร์เกิล |
|
ชะอำ, จ.เพชรบุรี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ดำน้ำแบบสกูบา |
|
ชะอำ, จ.เพชรบุรี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Water Sports |
|
ชะอำ, จ.เพชรบุรี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปีนเขา ชมวิว |
|
ชะอำ, จ.เพชรบุรี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ |
|
ชะอำ, จ.เพชรบุรี |
|
อ.บ้านแหลม |
ศูนย์อนุรักษ์และศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน โรงเรียนบางตะบูนวิทยา ตั้ง
อยู่ ภายในโรงเรียนบางตะบูนวิทยา ตามเส้นทางไปอ่าวบางตะบูน ป่าชาย
เลนบริเวณนี้มีพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจึงค่อน
ข้างอุดมสมบูรณ์ ทางโรงเรียนได้จัดทำ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เป็น
สะพานไม้และสะพานคอนกรีตยาวประมาณ 150 เมตร เข้าไปในป่าชาย
เลน ซึ่งมีพันธุ์ไม้ป่าชายเลนขึ้นอยู่หนาแน่น เช่น ต้นแสม ต้นโกงกาง ต้น
ชะคราม และมีสัตว์อาศัยอยู่มากมาย เช่น ลิงแสม ปลาตีน และปู ซึ่งจะ
ดีดก้ามส่งเสียงดังไปทั่วอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ในฤดูฝนจะพบหิ่งห้อย
แมลงที่เรืองแสงได้อีก ผู้สนใจศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนบริเวณนี้ สามารถ
ติดต่อล่วงหน้าได้ที่ โรงเรียนบางตะบูนวิทยา โทร. 0 3248 9174 หรือ
อาจารย์ชมพูนุท โทร. 08 9238 3837 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือ
ชมวิถีชีวิตฃาวเลริมแม่น้ำเพชรบุรี การประกอบอาชีพประมง การเลี้ยงหอย
แมลงภู่ตามแนวฝั่งทะเล โดยมีมัคคุเทศก์น้อยซึ่งเป็นเยาวชนในท้องถิ่น
เป็นผู้นำ ชมให้ความรู้
|
|
อ.บ้านแหลม |
สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (เพชรบุรี) ตั้งอยู่หน้าวัดบางขุนไทร
เป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีหน้า
ที่ในการจัดการทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อการสงวนอนุรักษ์และฟื้นฟูโดยการ
มีส่วนร่วมของชุมชน ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำ ลายป่าชายเลนใน
พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีกว่า 35,000 ไร่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้
แก่ประชาชนทั่วไปให้มีจิตสำ นึก ในการปกป้องดูแลรักษาไว้ซึ่งความสมบูรณ์
ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่และอำ นวยประโยชน์สูงสุดอย่าง
ยั่งยืน กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศของสถานีฯ ประกอบด้วย
เส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษา
เรื่องราวของป่าชายเลนและระบบนิเวศน์ชายฝั่ง มีป้ายอธิบายพันธุ์ไม้ต่างๆ
และมัคคุเทศก์น้อยเป็นผู้ช่วยแนะนำ นักท่องเที่ยว ตลอดเส้นทางจะได้ชื่นชม
กับความงดงามของธรรมชาติป่าชายเลน พันธุ์ไม้ต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ตามชายฝั่ง
สัตว์นานาชนิด เช่น ฝูงนกหลากชนิด ปลาตีน ปูก้ามดาบ กุ้งดีดขัน และ
สัตว์น้ำชายฝั่งอื่นๆอีกหลายชนิดที่มีให้ชม
กิจกรรมปลูกป่าชายเลน ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมอาจมาเป็นหมู่คณะหรือ
ครอบครัวก็ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่สถานีจะเตรียมกล้าไม้ไว้ให้ โดยมี
มัคคุเทศก์น้อยซึ่งเป็นเด็กๆ ในชุมชนเป็นผู้นำ ทาง โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง
เล็กน้อย เป็นค่าน้ำจืดล้างตัว คนละ 10 บาท ส่วนค่าบำ รุงและมัคคุเทศก์
แล้วแต่จะบริจาค นอกจากนี้ผู้ที่ประสงค์จะค้างคืนในหมู่บ้านชาวประมง
บางขุนไทร สามารถติดต่อกับทางสถานีฯ ได้ล่วงหน้า
ชมวิถีชีวิตฃาวเลชาวประมงพื้นบ้าน บางขุนไทรนั้นได้ชื่อว่าเป็นแหล่งหอยแครง
ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชมการเก็บหอยแครงด้วยวิธีการถีบ
กระดาน ซึ่งนับเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านในการประกอบอาชีพ สำ หรับใคร
ที่สนใจสามารถขอชาวบ้านทดลองถีบกระดานดูได้ ถือเป็นประสบการณ์
ที่น่าสนุกสนาน นอกจากนี้ยังสามารถชมเรือแถกเลนเป็นเรือหางยาวที่
แล่นไปบนเลนที่ยังพอมีน้ำแฉะไม่แห้งเกินไป สภาพความลื่นของพื้นผิวจะ
ทำ ให้เรือแล่นไปได้เร็วไม่แพ้การแล่นในน้ำ แต่ต้องอาศัยความชำ นาญใน
การขับและบังคับเรือ
การเดินทาง ทางรถยนต์ ใช้เส้นทางเพชรบุรี-บ้านแหลม จะมีป้ายบอก
ทางไปบางขุนไทร ระยะทางจากตัวเมืองเพชรบุรี 15 กิโลเมตร สำ หรับ
ผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารมีรถสองแถวจากตัวเมืองเพชรบุรีมายังวัดบาง
ขุนไทร สถานีฯจะอยู่ติดกับวัดบางขุนไทร นักท่องเที่ยวที่สนใจทำ กิจกรรม
ต่างๆ หรือพักที่บังกะโลบางขุนไทร สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่ สถานี
พัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (เพชรบุรี) หมู่ 10 ตำ บลบางขุนไทร
อำ เภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี 76110 โทร. 0 3240 0826 โทรสาร
0 3240 0825
|
|
|
|
|
|
|
|
วิถีชีวิตชาวเล |
|
ล่องเรือชมวิถีชีวิตฃาวเลบ้านบางตะบูน บ้านบางตะบูนอยู่ทางตอนเหนือของอำเภอ
บ้านแหลม เป็นหมู่บ้านชาวประมงริมปากอ่าว นักท่องเที่ยวสามารถเช่า
เรือหางยาวของชาวบ้านที่บริเวณหน้าวัดปากอ่าวเพื่อเที่ยวชมวิถีชีวิตฃาวเลการ
ทำ ประมงพื้นบ้าน การทำ ฟาร์มหอยแมลงภู่ เตาเผาถ่านไม้โกงกางและ
บ้านเรือนริมน้ำ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามได้ที่เทศบาลตำ บล
บางตะบูน โทร. 0 3248 9234
|
|
อ.ชะอำ |
ล่องเรือชมหิงห้อยบ้านแสมชาย เทศบาลตำบลบางครก ในช่วงต้นฤดูฝน
ถึงช่วงปลายฤดูหนาว ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน จะพบหิงห้อยจำ นวนมากสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี ผู้สนใจสามารถนั่งเรือพาย
ชมหิ่งห้อยตอนพลบค่ำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ
1 กิโลเมตร เรือนั่งได้ประมาณ 5-8 คน คนละ 50 บาท ติดต่อเรือได้ที่
เทศบาลตำ บลบางครก โทร. 0 3245 0484 หรือ คุณสามิต โทร. 08
7168 0961
|
|
อ.ชะอำ |
เทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก การออกร้านจำ หน่ายอาหารทะเลจากร้าน
อาหารและโรงแรมชื่อดังในอำ เภอชะอำ กว่า 50 ร้าน กิจกรรมทัวร์ดูนก
นานาชนิดและลงเรือออกทะเลไปตกหมึกในตอนกลางคืน จัดอาทิตย์สุดท้าย
ของเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม รวม 2 อาทิตย์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ตกปลา-ตกหมึก |
|
ชะอำ, จ.เพชรบุรี
|
|
|
|
กิจกรรมอื่นๆ |
|
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ตำบลห้วย-
ทรายเหนือ ถนนเพชรเกษมบริเวณกิโลเมตรที่ 216-217 เลยหาดชะอำ
มา 8 กิโลเมตร เป็นพระตำ หนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จ-
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำ หนักหาดเจ้าสำ ราญมาปลูกขึ้น
ใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับขนานนามว่า พระราชนิเวศน์แห่งความรักและ
ความหวัง ลักษณะเป็นพระตำ หนักแบบไทยผสมยุโรป เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง
สร้างด้วยไม้สักทอง พระตำ หนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของ
ฝ่ายหน้าประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อถึงกันโดยตลอด พระที่นั่ง
สมุทรพิมานเป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา
พระที่นั่งพิศาลสาครเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีอาคารข้าราชบริพารฝ่ายหน้าเป็นบริวารหลายหลังและมีแนวระเบียงยื่น
ลงสู่ทะเลเป็นที่ลงสรงน้ำ และพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถง
สองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่างๆ และเป็นโรงละครซึ่งเคย
จัดแสดงละครครั้งสำ คัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง และ วิวาห์พระสมุทร
ในปี พ.ศ.2484 เจ้าพระยารามราฆพ ได้สร้างพระบรมรูปพระบาทสม-
เด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายเป็นพระราชานุสรณ์ประดิษฐานไว้ ณ
ทอ้ งพระโรงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และไดจั้ดงานบำ เพญ็ พระราชกุศล
ถวายเป็นพระราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ ใน
วันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นประจำ ทุกปี พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้
เข้าชมวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และ
วันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ปิดวันพุธ ค่าเข้าชมผู้ใหญ่
30 บาท เด็ก 15 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท รับ ผู้เข้าชมเป็นหมู่
คณะ ต้องทำ หนังสือถึงผู้กำ กับการกองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายพระรามหก
อำ เภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3250 8039
|
|
อ.ชะอำ |
อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ตั้งอยู่ภายในบริเวณค่ายพระรามหก
ถนนเพชรเกษม (เข้าทางเดียวกับพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน) ตำบลชะอำ
ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราช-
สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 48 พรรษา
ในปีพุทธศักราช 2548 และเพื่อฟื้นฟูพัฒนาสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน ป่า
ชายหาด ป่าเบญจพรรณและที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิดในบริเวณนี้ให้
กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นศูนย์ให้ความรู้เผยแพร่และฝึกอบรม ระดับ
สากลด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอด
จนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อกระตุ้นและปลูกฝังจิตสำ นึกของ
ประชาชนให้เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยทุกคนมีโอกาสที่จะนำ ความรู้และประสบการณ์ที่ได้
ไปใช้ในชีวิตประจำ วัน สถานที่น่าสนใจภายในศูนย์มี
ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพลังงาน
การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดนิทรรศการ ในลักษณะ
ของ การสื่อสาร 2 ทาง (Two Ways Communication) โดยนิทรรศการ
จะแบ่งออกเป็น 8 สถานี ซึ่งแต่ละสถานีจะเป็นการนำ เสนอในรูปแบบที่
แตกต่างกันออกไป อาทิ แบบจำ ลอง หุ่นจำ ลองการ สาธิตและทดลองทำ
และมีสิ่งอำ นวยความสะดวกอื่นๆ อาทิศูนย์การ เรียนรู้ที่มีสื่อการเรียนรู้
ต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิทัล ห้องประชุมขนาดเล็ก ขนาด 30-40
ที่นั่งและห้องประชุมขนาดใหญ่ 200-300 ที่นั่ง ร้านอาหาร ร้านขายของ
ที่ระลึก เป็นต้น
ค่ายการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และ ค่ายสิ่งแวดล้อมนานาชาติ
เป็นสถานที่สำ หรับการเข้าค่ายพักแรมสำ หรับองค์กรต่างๆ ทั้งเป็นหมู่คณะ
และบุคคลทั่วไปที่สนใจศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงาน
ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและภูมิปัญญาไทย ภายในค่ายมีบริการ
บ้านพักเป็นหลัง บ้านพักรวมและลานกิจกรรม นอกจากนี้ยังสามารถ
สัมผัสกับห้องเรียนธรรมชาติ ภายในอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
อาทิ ป่าชายเลน ป่าชายหาดและป่าบก การฟื้นฟูสภาพดินเสื่อมโทรม
การแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง หอดูนก การสาธิตสูบน้ำโดยใช้พลังงานลม
การสาธิตการสูบน้ำโดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ เป็นต้น หมู่คณะที่
สนใจเข้าชม ติดต่อล่วงหน้าได้ที่ มูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โทร. 0 3250 8396, 0 3250 8352 www.sirindhornpark.or.th |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ที่มาของภาพ และข้อมูล |
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
|