เกี่ยวกับเรา | บริการ | ลงโฆษณา | พันธมิตรกับเรา | สะสมแต้ม | ออกแบบเว็บไซต์
 
 
 
ปลายทาง  |  รีวิวเที่ยวทะเล  |  รีวิวที่พัก  |  รีวิวร้านอาหาร  |  สัมผัสทะเลไทย
บริการ  :   โปรโมชั่น  |  ตั๋วเครื่องบิน  |  โรงแรม ที่พัก  |  แพคเกจทัวร์ |  ท่าเรือ-เรือเช่า  |  ข้อมูลการเดินทาง
AA
 
:: ปลายทาง
อ่าวไทยตะวันออก
อ่าวไทยตะวันตก
ทะเลใต้ ฝั่งอันดามัน
ทะเลใต้ ฝั่งอ่าวไทย
เตรียมตัวเที่ยวทะเล
 
เกี่ยวกับเรา
สำหรับผู้ประกอบการ
   โฆษณากับเรา
   พันธมิตรกับเรา
   สะสมแต้ม จิกทะเลพลัส

:: เกาะ เมืองชายทะเล > ทะเลใต้ ฝั่งอ่าวไทย
เกาะสมุย
เกาะพะงัน
เกาะเต่า-เกาะนางยวน
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะชุมพร
หาดทรายรี-หาดทุ่งวัวแล่น
หาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้
อ่าวมะนาว-เขาตันหยง
 
B08,
B09

สารบัญที่พัก บังกาโล รีสอร์ท
รีวิวที่พัก บังกาโล รีสอร์ท
การเดินทาง
โปรโมชั่น
บันทึกความทรงจำ


 
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช > กิจกรรมท่องเที่ยว  
ภาพโดย thai.tourismthailand.org, www.facebook.com/Pacharaanong Hirunsalee, www.facebook.com/WhiteCloudTravel
 
 
กิจกรรมท่องเที่ยวใน ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช
อ่าวและชายหาด ดำน้ำแบบสนอร์เกิล
ดำน้ำแบบสกูบา Water Sports
ปีนเขา ชมวิว เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
วิถีชีวิตชาวเล ตกปลา-ตกหมึก
กิจกรรมอื่นๆ  
 
กิจกรรมท่องเที่ยว
อ่าวและชายหาด
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
อ.ขนอม

อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ตั้งอยู่ บนถนนขนอม-โรงไฟฟ้า อุทยานครอบคลุมพื้นที่ ทางทะเลและชายฝั่งทะเลของอำเภอขนอมทั้งหมด รวมทั้งชายฝั่งทะเลบางส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย เกาะน้อย เกาะวังใน เกาะวังนอก เกาะแตน เกาะราบ เกาะมัดสุ่ม เกาะท่าไร่ เกาะผี เป็นต้น สอบถามข้อมูล ที่ทำการอุทยานฯ โทร. 08 6475 8392 หรือ www.dnp.go.th สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานฯ ได้แก่

- อ่าวขนอม เป็นอ่าวที่ยาวที่สุดของชายฝั่งทะเลขนอม มีความยาวติดต่อกัน 4 หาด คือ หาดคอเขา หาด หน้าด่าน หาดในเปร็ต หาดในเพลา เป็นหาดทรายยาว สลับโขดหิน อยู่ระหว่างเขาที่ยื่นไปในทะเล ทั้ง ด้านเหนือและด้านใต้ ริมฝั่งขนอมมีชายหาดน้อยใหญ่ เรียงรายอยู่หลายแห่ง ทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับ เล่นนำ

- จุดชมทิวทัศน์เขาดาดฟ้า จากจุดนี้สามารถชมวิว ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก ชมวิวหมู่เกาะแตน หมู่เกาะ ในทะเลขนอม ชมวิวสภาพป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ของ เขาดาดฟ้า ดูนกป่านานาชนิด

-ป่าชายเลนคลองขนอม ในเขตตำบลขนอม ตำบล ควนทองและตำบลท้องเนียน เหมาะสำหรับศึกษา ธรรมชาติป่าชายเลนหรือนั่งเรือของชาวประมงเข้าไป ตามคลองขนอมเพื่อชมหิ่งห้อยสองฝั่งคลอง

-ถำเขาวัง ภายในถำมีลักษณะเป็นห้องโถงหลายห้อง แต่ละห้องมีหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะรูปร่าง ต่างกัน เช่น เจดีย์ ไดโนเสาร์ น้อยหน่าหรือไข่ดาว การเข้าชมบางห้องจะต้องคลาน ลอด หรือปีน ภายในถำ มีไฟส่องตามจุดต่าง ๆ ใช้เวลาเข้าชม 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูล อบต. ควนทอง โทร. 0 7575 4230

แหล่งดำนำดูปะการังและพันธุ์ปลา มีแหล่งดำนำ ดูปะการังและพันธุ์ปลาต่าง ๆ เช่น เกาะราบ เกาะ แตน เกาะวังใน และเกาะวังนอก มีเรือบริการดำนำ ดูปะการังและตกปลา ประกอบด้วย ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังผักกาด ปะการังจาน ปะการัง อ่อน นานาชนิด และยังมีปลาผีเสื้อ หอยกระต่าย ทะเล และดอกไม้ใต้ทะเลอีกด้วย

สปาปลา การบำบัดด้วยปลา อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ธารนำ การใช้ปลาบำบัด จะช่วยกำจัดเซลล์ที่ตาย กระตุ้นเซลล์ให้เกิดใหม่ จะรู้สึกว่าเท้าสะอาดและ นุ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมาย เช่น ขี่จักรยานชมสวน ล่องแพ พายเรือ นั่งสมาธิ เป็นต้น สอบถามข้อมูล ต้นธารรีสอร์ทแอนด์สปา โทร. 0 7547 0786, 08 1945 0263 www. tontarnresortkhanom.com การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 แยกเข้า ทางหลวงหมายเลข 4142 ขนอม–ดอนสัก ถึง สี่แยกนำตกโฉ เลี้ยวขวา 900 เมตร อยู่ห่างจาก ท่าเรือเฟอร์รี่ไปเกาะสมุย 7 กิโลเมตร

 

 
อ.ท่าศาลา

หาดด่านภาษี หรือ หาดซันไรท์ ตำบลท่าศาลา เป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล ตามถนนเลียบชายฝั่ง เป็นหาดทรายขาวสะอาดและเงียบสงบ การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 นครศรีธรรมราช–ท่าศาลา–สุราษฎร์ธานี ห่างจาก ตัวอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 29 กิโลเมตร

 

 
อ.ปากพนัง

ชายทะเลปากพนังและแหลมตะลุมพุก บริเวณ ตอนบนของอำเภอปากพนัง เคยเกิดเหตุการณ์ มหาวาตภัยครั้งใหญ่จากพายุโซนร้อนแฮร์เรียต พัดถล่มแหลมตะลุมพุก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 คลื่นสูง 6.8 เมตร ชาวบ้าน แหลมตะลุมพุกสูญหายกว่า 1,300 คน ชายหาด ปากพนงั เป็นหาดยาวไปตามชายฝั่งทะเล มีแหลม ตะลุมพุกเป็นแหลมทรายรูปจันทร์เสี้ยวยื่นไปใน อ่าวไทย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารทะเลบริการ ในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 นครศรีธรรมราช-ปากพนัง มีทางแยกเข้าสู่แหลม ตะลุมพุก ระยะทางจากปากพนังไปถึงปลายแหลม ตะลุมพุก 25 กิโลเมตร

 

 
อ.สิชล หาดสิชล ชาวท้องถิ่นเรียกว่า หัวหินสิชล เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานาน บริเวณชายหาดเป็น แนวหิน ไปจนจรดหาดทรายโค้ง เหมาะแก่การเล่นนำ มีที่พัก และร้านอาหาร บริการนักท่องเที่ยว หาดหินงาม บริเวณชายหาดเต็มไปด้วยก้อนหิน กลมมีสี สีสันสวยงาม และเป็นที่มาของชื่อหาดหินงาม แนวชายหาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการ นักท่องเที่ยว หาดคอเขา หรือ หาดปิติ ชายหาดจะต่อจากหาด หินงาม หาดเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน บริเวณ โดยรอบได้รับการพัฒนา มีที่พักและร้านอาหาร บริการนักท่องเที่ยว การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 นครศรีธรรมราช-สิชล จากตัวอำเภอสิชลแยกขวา ไปทางบ้านปากนำ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงชายหาด สิชล และจากหาดสิชลไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึงหาด หินงามและหาดคอเขา  
     
ดำน้ำแบบสนอร์เกิล
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
     
     
ดำน้ำแบบสกูบา
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
     
     
Water Sports
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
     
     
ปีนเขา ชมวิว
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
     
     
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
     
     
วิถีชีวิตชาวเล
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
อ.ขนอม

หมู่บ้านแหลมประทับ เป็นชุมชนดั้งเดิมแห่งหนึ่ง ของตำบลท้องเนียน ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ปัจจุบันเป็นท่าเรือให้บริการท่องเที่ยวชมโลมาสีชมพู มีสินค้าท้องถิ่นที่สำคัญ คือ กะปิแหลมประทับ และ ยังมีโฮมสเตย์แหลมประทับ ให้บริการ
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ถึงแยกคลองเหลง (มีรูปปั้นปลาโลมา) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4014 เมื่อเข้าตัวเมืองขนอม เจอสี่แยกเลี้ยวซ้าย ผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอ ตลาดบางโหนด สะพาน คลองขนอม จนถึงสามแยกบ้านบางแพงเลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 4044 บ้านนำโฉ

– บ้านบางแพง สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณบ้านแหลมประทับ สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณบ้านแหลมประทับ

- โลมาสีชมพู สัญลักษณ์แห่งท้องทะเลขนอม ด้วย ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติใน ทะเลและป่าชายเลน ทำให้อำเภอขนอมเป็นถิ่นอาศัย ของโลมาสีชมพู ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการดูโลมา คือ ช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยง หากมาช่วงบ่ายคลื่นลม ทะเลแรงอาจไม่พบ สามารถเดินทางมาชมได้ตั้งแต่ เดือนมกราคม–ตุลาคม สอบถามข้อมูลเช่าเรือ ได้ที่ กลุ่มประมงชายฝั่งรักบ้านเกิด (ได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2550 ด้านชุมชน ดีเด่นด้านการท่องเที่ยว) กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ บ้านแหลมประทับ ติดต่อคุณมนัส ศรีขำกุล โทร. 08 7282 7761 ผู้ใหญ่โชติ สุขใส โทร. 08 9473 1114

- เขาหินพับผ้า ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลท้องเนียน ใกล้กับ บ้านแหลมประทับ (จุดลงเรือชมโลมา) ลักษณะเป็น หินทับเป็นชั้น ๆ บางจุดสามารถขึ้นไปยืนได้ ชาวบ้าน เรียกว่า เวทีพุ่มพวง - เกาะนุ้ย-บ่อนำจืดกลางทะเล ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ของบ้านแหลมประทับ เป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลขนอม มีบ่อนำจืดขนาดเล็กคล้ายรอยเท้าคน ตามตำนาน หลวงปู่ทวดเหยียบนำทะเลจืด สามารถเห็นบ่อนำ เมื่อนำทะเลลดลง บนเกาะมีรูปปั้นหลวงปู่ทวด สามารถเดินขึ้นไปสักการะได้

 

 
อ.ท่าศาลา

พิพิธภัณฑ์หาดทรายแก้ว ตั้งอยู่เลขที่ 103/1 ตำบล ท่าขึ้น จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาโบราณและเครื่องมือ เครื่องใช้ สมบัติจากซากเรืออับปาง สมบัติใต้ทะเล ฝั่งอ่าวไทย ทะเลอันดามัน ช่องแคบมะละกา หลาย หมื่นชิ้น ทั้งลูกปัดโบราณ ไหขนาดต่าง ๆ กัน และ เครื่องสังคโลก ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์จากเตาเผายุค สุโขทัยและเตาเผาชะเลียงที่เป็นสินค้าส่งออกของ ไทย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 1719 2691

 

 
อ.ปากพนัง ตลาด 100 ปี ริมแม่นำปากพนังฝั่งตะวันออก เป็นตลาดเก่าแก่ของชุมชนปากพนัง ที่อยู่อาศัย มาเป็นเวลานาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชม วิถีชีวิตและเลือกซื้ออาหารทะเลสด ๆ หรืออาหาร ทะเลแปรรูปที่ขึ้นชื่อได้แก่ ปลากระบอกแปรรูป ไข่ปลากระบอก พร้อมเดินชมวิถีชีวิตชุมชนในตลาด ริมฝั่งแม่นำปากพนังบรรยากาศสวยงาม  
     
 
ตกปลา-ตกหมึก
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช
กิจกรรมอื่นๆ
ขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้, จ.นครศรีธรรมราช  
อ.เมือง

หอพระพุทธสิหิงค์ ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ตำบล ในเมือง เดิมเป็นหอพระตั้งอยู่บริเวณจวนเจ้าเมือง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัด ภายใน แบ่งเป็นสองตอน ตอนหน้าเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระพุทธสิหิงค์และพระลากเงิน พระลากทอง ส่วนด้านหลังหอใช้เป็นที่ไว้พระโกศและโกศ ของต้นตระกูล ณ นคร ปัจจุบันพระพุทธสิหิงค์ ในประเทศไทยมีอยู่ 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ วัดพระสิงห์จังหวัดเชียงใหม่ และหอพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้เข้าสักการะบูชา วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.

หอพระอิศวรและเสาชิงช้า ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถาน ศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย ประดิษฐานศิวลึงค์ สัญลักษณ์ของพระอิศวรและ ฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปสำริดองค์จำลองอีกหลายองค์ เช่น เทวรูปศิวนาฏราช พระอุมา และพระพิฆเนศ องค์จริงเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ทางด้านใต้เป็นที่ตั้งของเสาชิงช้า เคยใช้ในพิธียัมปวายและตรีปวายของพราหมณ์ แต่ถูกยกเลิกเมื่อปี พ.ศ. 2468 โดยจำลองแบบมาจาก เสาชิงช้าในกรุงเทพมหานคร หอพระอิศวรแห่งนี้ เป็นที่จัดงานประเพณีแห่นางดานช่วงเทศกาล สงกรานต์ทุกปี มีการแสดงแสง สี เสียง เปิดให้เข้าชม วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.

หอพระนารายณ์ ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ตรงข้าม หอพระอิศวร เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ อีกแห่งหนึ่ง ภายในประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ จำลอง ที่พบในแหล่งโบราณคดี อำเภอสิชล องค์จริงสลักจากหินทรายสีเทา ทรงหมวกรูปกระบอก ปลายสอบ พระหัตถ์ขวาทรงสังข์ มีอายุราวพุทธ ศตวรรษที่ 10–11 เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถาน แห่งชาตินครศรีธรรมราช เปิดให้เข้าชม วันจันทร์– วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.

กำแพงเมืองเก่า ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ซ่อมขึ้นใหม่ ตามรูปเดิมในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์และได้รับการ บูรณะเพิ่มเติมขึ้นอีกในปี พ.ศ. 2533 ขนานไปกับ คูเมือง ตั้งแต่ป้อมประตูชัยเหนือ หรือประตูชัยศักดิ์ ไปทางตะวันออกยาว 100 เมตร และใน พ.ศ. 2548 ได้บูรณะเพิ่มเติมเป็นแนวขนานกับคูเมือง ทางทิศ ตะวันตกยาว 150 เมตร

ศาลาประดู่หก ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน เดิมเป็นศาลา นอกกำแพงเมือง ตรงประตูชัยเหนือ ศาลาแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างต้นประดู่หกต้น ชาวนครเรียกว่า“หลาโดหก” ศาลาหลังที่มีอยู่ทุกวันนี้สร้างขึ้นใหม่ โดยคงรูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของศาลาเดิมไว้ เป็นศาลาทรงไทย ปัจจุบันทางเทศบาลได้ปลูกต้นใหม่ แทนต้นเก่าที่ตายไป

อนุสาวรีย์และสระนำศรีปราชญ์ ตั้งอยู่ในโรงเรียน กัลยาณีศรีธรรมราช ศรีปราชญ์เป็นกวีเอกในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ถูกเนรเทศมาอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช ต่อมามีความขัดเคืองใจกับพระยานครศรีธรรมราช จึงถูกสั่งประหารชีวิต ภายหลังจากศรีปราชญ์ถูกประหาร ได้นำดาบมาล้างที่สระแห่งนี้ ในปี พ.ศ. 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด อนุสาวรีย์ศรีปราชญ์

พระวิหารสูง หรือ หอพระสูง ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน อยู่นอกกำแพงเมืองด้านทิศเหนือ ใกล้การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานครศรีธรรมราช เรียกชื่อตามลักษณะของการก่อสร้างของพระวิหาร ซึ่งสร้างบนเนินดิน สูงกว่าพื้นปกติ 2.10 เมตร สันนิษฐานจากลักษณะของสถาปัตยกรรมและ จิตรกรรมฝาผนังว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น แกน ดินเหนียว สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพุทธศตวรรษที่ 23–24 หรือในสมัยอยุธยาตอนปลาย

ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ถนน ราชดำเนิน ประกอบด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลาง เป็นที่ประดิษฐานของศาลหลักเมือง ออกแบบคล้าย ศิลปะศรีวิชัย เรียกว่า ทรงเหมราชลีลา ส่วนอาคารเล็ก ทั้งสี่หลัง ถือเป็นบริวารสี่ทิศ เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง ศาลพระทรงเมือง ศาลพระพรหมเมือง และศาลพรบันดาลเมือง ก่อสร้าง เสร็จสมบูรณ์ใน พ.ศ. 2542 องค์เสาหลักเมือง ทำด้วยไม้ตะเคียนทอง ได้มาจากภูเขายอดเหลือง ในนครศรีธรรมราช ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคาม รามเทพ (สี่พักตร์) หรือเทวดารักษาเมือง เหนือสุด เป็นเปลวเพลิงอยู่บนยอดพระเกตุ คือยอดชัย หลักเมือง รูปแบบการแกะสลักจินตนาการจาก ความเชื่อในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเคยมี อิทธิพลต่อศิลปกรรมในภาคใต้ และนครศรีธรรมราช แต่ครั้งโบราณ ประกอบพิธีเบิกเนตรหลักเมือง เมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิมยอดชัยหลักเมือง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2530 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และอัญเชิญ มาประดิษฐาน ณ ศาลหลักเมือง เป็นที่สักการะบูชา ของประชาชน

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนราชดำเนิน ตำบล ในเมือง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ แห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย ตามตำนาน พ ร ะ บ ร ม ธ า ตุน ค ร ศ รีธ ร ร ม ร า ช ก ล ่า ว ว ่า เจ้าชายธนทกุมารและพระนางเหมชาลา ได้อัญเชิญ พระทันตธาตุลงกำปั่นไปกรุงลังกาเพื่อถวาย แก่พระเจ้ากรุงลังกาที่ได้มาทูลขอ แต่เรือกำปั่น ถูกพายุพัดแตกกลางทะเลซัดทั้งสองขึ้นฝั่ง ถึงหาดทรายแก้ว ฝังพระทนั ตธาตุที่ซ่อนในพระเกศา ของพระนางเหมชาลาลง ณ หาดทรายแก้ว และ สร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆ เป็นที่หมายไว้ ในปีมหาศักราช 1098 (พ.ศ.1719) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมก่อสร้าง เจดีย์องค์ใหม่ เป็นเจดีย์ทรงลังกา สูง 55.78 เมตร (กรมศิลปากรบูรณะปลียอดทองคำเมื่อ พ.ศ. 2538) จากฐานบัวคว่ำบัวหงายถึงปลียอด สูง 6.80 เมตร ใช้ทองคำเนื้อสิบหุ้มโดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ มีวิหารที่มีความสำคัญหลายหลังประดิษฐานอยู่ โดยเฉพาะ พระวิหารหลวง มีความงามตามแบบ สถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา นอกจากนี้ยังมี วิหารสามจอม ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง อย่างกษัตริย์ชื่อว่า “พระศรีธรรมาโศกราช” วิหารพระมหาภิเนษกรมน์ (วิหารพระทรงม้า) วิหารทับเกษตร ประดิษฐานพระพุทธรูปถึง 92 พระองค์ ส่วนวิหารเขียนและวิหารโพธิ์ลังกา เป็นสถานที่ จัดแสดงโบราณวัตถุที่พุทธศาสนิกชนถวายเป็น พุทธบูชา นอกจากนี้ในบริเวณวัดพระธาตุ จำหน่าย เครื่องถมนคร งานฝีมือโบราณที่ถือเป็นเอกลักษณ์ ของนครศรีธรรมราช ทั้งแหวน สร้อย กำไล พาน ขัน เป็นต้น

บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน เป็นบ้านไม้ทรงปั้นหยายกพื้น หลังคาสูง สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2445 โดยท่านขุนรัฐวุฒิวิจารย์ ชื่อเดิม นายเขียน มาลยานนท์ นายอำเภอเมืองกลาย ภายหลังได้ยกที่ดินและบ้านหลังนี้ให้แก่ นายโกวิท ตรีสัตยพันธุ์ (หลาน) ในปี พ.ศ. 2482 เปิดเป็นโรงเรียนรัฐวุฒิวิทยา ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนนครวิทยา และได้ปิดลงในปี พ.ศ. 2529 ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 นายสำราญ ตรีสัตยพันธุ์ ซึ่งเป็น ทายาทคนหนึ่งของตระกูลตรีสัตยพันธุ์ ได้ซื้อบ้าน และที่ดินแปลงนี้มาดำเนินการบูรณปรับปรุง ซ่อมแซม เพื่อ อนุรักษ์ไว้เป็นบ้านโบราณของจังหวัด ให้คนรุ่นหลัง ของชาวนครและนักท่องเที่ยวได้มาชมความงาม ของเรือนไทยโบราณหลังนี้ การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 เข้า ตัวอำเภอเมือง ตรงข้ามวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ ถนนราชดำเนิน เป็นศูนย์กลางการศึกษา การอนุรักษ์ และการท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์สองชั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเปิดเมื่อ วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2517 จัดแสดงโบราณวัตถุที่พบ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง และชุมพร รวบรวมตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ศิลปะสมัยทวารวดี จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เช่น เรือพระที่นั่งถมทอง เป็นถมทองชิ้นเยี่ยมที่สุดและ ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช หน้าบันไม้จำหลัก ภาพเทพรำศิลปะภาคใต้ เครื่องถม เครื่องทองเหลือง ผ้ายกเมืองนครศรีธรรมราช รถม้าโบราณ เป็นต้น เปิด ให้เข้าชมวันพุธ–วันอาทิตย์ เวลา 09.00–16.00 น. ค่าเข้าชม คนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท สอบถามข้อมูล โทร. 0 7534 1075

กุฏิทรงไทย หรือ กุฏิร้อยปี วัดวังตะวันตก ตั้งอยู่ ถนนราชดำเนิน ตามประวัติกล่าวว่าเมื่อครั้งเจ้าจอม มารดาปรางประทับอยู่ที่วังตะวันออก โปรดให้ ปรับปรุงป่าขี้แรด ตรงข้ามกับวังตะวันออก ให้เป็น อุทยานวังตะวันตก ครั้นเจ้าจอมมารดาปรางสิ้นชีพ ตักษัยลง เจ้าพระยานคร (น้อย) ผู้เป็นบุตร ได้ใช้ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ปลงพระศพและสร้างขึ้นใหม่ ให้เป็นวัดวังตะวันตกคู่กับวังตะวันออก พ.ศ. 2431 พระครูกาชาด (ย่อง) พร้อมด้วยสานุศิษย์ ได้สร้างกุฏิ ขึ้นหมู่หนึ่ง ด้วยประสงค์เพื่อ “เปลื้องธุระสงฆ์ที่วังวน ด้วยจากฟากฝา แลจะได้อยู่อาไสยเอาเรียนพระธรรม์ บำรุงพุทธศาสนาให้จิรัง” โดยใช้เวลาในการก่อสร้าง นานถึง 13 ปี เป็นกุฏิไม้ทรงไทย เรือนเครื่องสับ 3 หลัง มีหลังคาจั่ว แต่ละหลังคาคลุมเชื่อมต่อกัน ตัวเรือนฝาปะกน ตามประตูหน้าต่าง และช่องลม ประดับด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนคร ใน พ.ศ. 2535 สมาคมสถาปนิกสยาม คัดเลือกกุฏิ วัดวังตะวันตก ให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประเภท ปูชนียสถานและวัดวาอาราม

เก๋งจีนวัดประดู่ อยู่ในบริเวณวัดประดู่ ถนน ราชดำเนิน ใกล้สนามกีฬาจังหวัด สร้างสมัยต้น รัตนโกสินทร์ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีน เช่นเดียวกับเก๋งจีนวัดแจ้ง โดยเป็นที่ประดิษฐานอัฐิ เจ้าพระยานคร (น้อย) ผู้เป็นบุตรของเจ้าพระยานคร (หนู)

เก๋งจีนวัดแจ้ง อยู่ในวัดแจ้ง ริมถนนราชดำเนิน ใกล้กับสนามกีฬาจังหวัด อาคารก่ออิฐถือปูน รูปทรง อาคารจีน ภายในประดิษฐานบัวบรรจุอัฐิ ของ เจ้าพระยานคร (หนู) และหม่อมทองเหนี่ยว ผู้เป็น ชายาปัจจุบัน

อนุสาวรีย์วีรไทย ตั้งอยู่ในค่ายวชิราวุธ (กองทัพภาคที่ 4) ถนนราชดำเนิน เป็นอนุสรณ์ทหารไทยในภาคใต้ ที่เสียชีวิตในการปะทะกับทหารญี่ปุ่น ในสงคราม มหาเอเชียบูรพา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 อนุสาวรีย์หล่อด้วยทองแดงรมดำ เป็นรูปทหาร เตรียมรบสองมือ จับปืน ติดดาบ เรียกว่า “จ่าดำ” หรือ “เจ้าพ่อดำ”

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) ตั้งอยู่ ถนนราชดำเนิน เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และ เป็นที่พักผ่อนของชาวนคร ภายในยังมีสถานที่ ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ - พุทธภูมิจำลอง จำลองสิ่งก่อสร้างจากสังเวชนียสถาน ทั้ง 4 ตำบล ในประเทศอินเดีย และประเทศเนปาล มาประดิษฐานให้สมจริงมากที่สุดและ สร้างพระพุทธรูปปางลีลาไว้เป็นประธาน ท่ามกลางสังเวชนียสถานให้สักการะบูชา นามว่า “พระพุทธสิรินครนาถ เฉลิมราชย์สัฎฐยานุสรณ์” ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกประทานนามให้ นอกจากจะเป็น โครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และโครงการนี้ยังจัดทำเพื่อ ถวายเป็นพุทธบูชา ตามเจตนารมย์ของพุทธศาสนิกชน ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย สอบถามข้อมูล โทร. 0 7535 8261

พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช อาคารวีรไทย ได้รับ รางวัลดีเด่น ประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริม การท่องเที่ยว ปี พ.ศ. 2551 จากการประกวดรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Tourism Awards) จัด แสดงประวัติความเป็นมาของเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เล่าถึงฐานบรรพบุรุษ ชาวนคร รวมถึงอารยธรรม วัฒนธรรม ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม อีกทั้งบุคคลผู้มีคุณูปการต่อเมืองนคร ในฐานะผู้ก่อตั้งเมืองนคร ได้แก่ พระเจ้าศรีธรรม โศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ พระรัตนธัชมุนีศรี ธรรมราช (ม่วง รตนธชเถร) พระครูเทพมุนีศรีสุวรรณ ถูปาฏมาภิบาล (ปาน) พระครูพิศิษฐอรรถาการ (พ่อท่านคล้าย) เปิดให้เข้าชมวันอังคาร–วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. วันเสาร์–วันอาทิตย์ เวลา 09.00–17.00 น. ปิดวันจันทร์ สอบถามข้อมูล โทร. 0 7535 8261

เจดีย์ยักษ์ ตั้งอยู่ถนนศรีปราชญ์ หลังสวนพระเงิน ข้างสำนักงานเทศบาลนครศรีธรรมราช เป็นเจดีย์ สูงใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเจดีย์พระบรมธาตุ ทรงเจดีย์แบบลังกา สันนิษฐานว่าชาวลังกา ที่สร้าง พระบรมธาตุเป็นผู้สร้างราว พ.ศ. 1800–1900 มีการซ่อมสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2518–2522 กรมศิลปากรได้ ซ่อมแซมด้านหน้าพระเจดีย์ มีวิหารประดิษฐาน พระพุทธรูปปั้นนั่งองค์ใหญ่สมัยอยุธยา เรียกว่า พระเงินหรือหลวงพ่อเงิน

บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน ตั้งอยู่ถนนศรีธรรม โศก ซอย 3 ก่อตั้งโดย นายสุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปิน แห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน) พ.ศ. 2539 บริเวณบ้านได้จัดแบ่งเป็น พิพิธภัณฑ์ หนังตะลุง จัดแสดงหนังตะลุงประเภทต่าง ๆ สาธิต การแกะรูปหนังตะลุง มีเวทีสาธิตหนังตะลุงอย่าง ครบวงจร ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) รางวัลดีเด่นประเภท วัฒนธรรมและโบราณสถาน ใน พ.ศ. 2539 และ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมแหล่งเรียนรู้และนันทนาการ ใน พ.ศ. 2552 เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30– 17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 0 7534 6394 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 เข้าตัว อำเภอเมือง ผ่านวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพานยม จากนั้นเลี้ยวขวาไปตาม ถนนศรีธรรมโศก เข้าซอยศรีธรรมโศก 3 พิพิธภัณฑ์ฯ อยู่ด้านขวามือ

 

 
อ.ฉวาง

ชุมชนไม้เรียง เดิมชาวชุมชนไม้เรียงประกอบ อาชีพทำสวนยางพาราเป็นหลัก แต่ต่อมาประสบ ปัญหาราคายางตกต่ำ จึงได้มีแนวทางการแก้ปัญหา โดยมีการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อร่วมกันปรับปรุง คุณภาพยางแผ่นที่มีคุณภาพ เรียกว่า “กลุ่มเกษตรกร ชาวสวนยางไม้เรียง” และใช้เทคโนโลยีในการผลิต เพื่อขายยางปริมาณมาก ๆ ให้ได้ราคาและมีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด ต่อมานายประยงค์ รณรงค์ ผู้นำชุมชนบ้านไม้เรียง ได้เสนอแผนพัฒนาชุมชน ที่เป็นการเปลี่ยนทิศทางของเกษตรกรรมแผนใหม่ จากการมุ่งเน้นปลูกพืชเชิงเดี่ยวจากทำสวนยางพารา มาเป็นการแสวงหาความหลากหลายของการ ประกอบอาชีพการเกษตร คือ การพัฒนาความ สามารถของเกษตรกรและเสริมสร้างเศรษฐกิจ ชุมชน ประกอบด้วยกิจกรรมการเกษตร 8 กิจกรรม ได้แก่ กลุ่มเพาะเลี้ยงปลา กลุ่มผักปลอดสารพิษ กลุ่มแปรรูปข้าว กลุ่มเพาะเลี้ยงไก่พื้นเมือง กลุ่ม ผลิตอาหารสัตว์ กลุ่มเพาะเลี้ยงสุกร กลุ่มสมุนไพร และกลุ่มเพาะเลี้ยงเห็ด กลุ่มกิจกรรมเหล่านี้ มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการผลิตเพื่อการพึ่งตนเอง ของชุมชนและเชื่อมโยงกับตลาดภายนอก โดยผ่าน การจัดการของแต่ละกลุ่มที่มีองค์กรบริหารของตน สอบถามข้อมูล โทร. 08 1956 0865 การเดินทาง ใช้ทางหลวงสาย ฉวาง–ทานพอ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ถึงสถานีรถไฟทานพอ ถึง บ้านปลายเส เดินทางอีก 2 กิโลเมตร

วัดธาตุน้อย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือพ่อท่านคล้าย นามเดิม คล้ายสีนิล เป็นพระผ้ปู ฏิบัติดี ประพฤติชอบ มีวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ พูดจาอะไรออกมาก็จะเป็นไป ตามคำพูด ประชาชนเคารพนับถือศรัทธาท่านมาก คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำ เหล่านั้นเปรียบเหมือนการพยากรณ์ที่แม่นยำ ทั้งใน ทางดีและทางไม่ดี พ่อท่านคล้ายมรณภาพ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513 สรีระของท่านถูกบรรจุไว้ใน โลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์วัดธาตุน้อย จนถึง ปัจจุบัน สอบถามข้อมูล โทร. 0 7548 6779

 

 
อ.ช้างกลาง

จุดชมวิวเขาเหมน หรือ เขาพระสุเมรุ ตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาตินำตกโยง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในอุทยาน อากาศหนาวเย็นและมีเมฆปคลุมทั้งปี มองเห็นทิวทัศน์ของเขาเหมนและบรรยากาศของ สวนผลไม้ที่อยู่รายรอบ มีบริการเดินป่า ใช้เวลาเดิน ถึงยอดเขา 4-5 ชั่วโมง มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล คุณเรขา ปรีชาวัย โทร. 08 1271 1964 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 เลี้ยวซ้าย ตรงแยกบ้านตาล เข้าทางหลวงหมายเลข 4015 ไปถึงวัดมะนาวหวาน เลี้ยวซ้ายไปอีก 10 กิโลเมตร

 

 
อ.เชียรใหญ่

ศาลหลวงต้นไทร ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 ตำบลการะเกด นายจำนูญ พลายด้วง ราษฎรตำบลแม่เจ้าอยู่หัว ได้ กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2545 ถึงต้นไทรขนาดใหญ่ ที่ขึ้นขวางแนวขุดคลองชะอวด-แพรกเมือง ใน โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มนำปากพนังอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ตำบลการะเกด ว่าการดำเนินงาน ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากเครื่องยนต์ของเรือขุดและ รถขุดจะดับทุกครั้งที่เข้าไปใกล้ต้นไทรต้นนี้ และ มีคนงานล้มป่วย เชื่อกันว่าจะเกิดจากต้นไทรใหญ่ ซึ่งขึ้นเด่นเป็นสง่า บริเวณใกล้ต้นไทรขุดพบซาก กระดูกมนุษย์ และสัตว์ต่าง ๆ ต่อมาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับสั่งให้ตั้งศาลหลวงพร้อมทั้ง ประกอบพิธีบวงสรวงเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2547 ศาลหลวงทำด้วยไม้ทั้งหลัง บริเวณรอบ ศาลหลวงต้นไทรมีทัศนียภาพสวยงาม

วัดแม่เจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว ภายในมีรูปปั้นแม่เจ้าอยู่หัว (พระนางเลือดขาว) ซึ่งเป็นพระสนมเอกของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ประดิษฐานอยู่ แม่เจ้าอยู่หัว เป็นผู้ที่มีบารมี คุณธรรม จริยธรรมสูง มีเมตตาจิตที่มั่นคงต่อประชาชนทั่วไป ตั้งแต่สมัยพระนางยังมีชีวิตอยู่ ได้ช่วยเหลือเกื้อกูล ขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากของชาวบ้านทุกเขตแขวง ที่พระนางอาศัยหรือเดินทางผ่าน ทำให้ประชาชน ได้รับความร่มเย็นและเกิดความเชื่อถือ ความศรัทธา ต่อบารมีของพระนาง แม้พระนางจะสิ้นชีวิตแล้ว ก็ยังมีประชาชนยังเคารพศรัทธาและความเชื่อมั่น ในบารมี การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 408 นครศรีธรรมราช-สงขลา ถึงสี่แยกบ่อล้อ ตรงไป 1 กิโลเมตรวัดอยู่ทางขวามือ ระยะทางจากตัวเมือง ไปวัดแม่เจ้าอยู่หัว 45 กิโลเมตร

 

 
อ.ท่าศาลา

โบราณคดีวัดโมคลาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 ตำบล โมคลาน เดิมเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ลัทธิ ไศวนิกาย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-14 ต่อมาเทวสถานแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป จนถึงสมัยอยุธยา ได้ตั้งเป็นชุมชน สร้างวัดและสำนักสงฆ์ขึ้น หลักฐาน ที่ยังคงปรากฏให้เห็น ได้แก่ แนวเสาหิน หินแกะสลัก กรอบประตูอาคาร สระนำโบราณ แท่นตั้งเทวรูป กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ. 2518 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 นครศรีธรรมราช-สิชล ถึงบ้านหน้าทัพ แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงหมายเลข 4022 อีก 6 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติเขานัน ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอ ท่าศาลา อำเภอสิชล และอำเภอนบพิตำ นอกจากนี้ ยังมีอาณาเขตที่ครอบคลุมเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขานัน และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิงบางส่วน ลักษณะเป็นเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแนวมาจาก อุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นป่าต้นนำของคลอง หลายสาย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ นำตก สุนันทา นำตกกรุงนาง นำตกคลองปาว มีสถานที่ กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล อุทยาน แห่งชาติเขานัน โทร. 0 7546 6108 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ข้าม คลองกลาย ผ่านบ้านสระแก้ว อำเภอท่าศาลา ถึงหลักกิโลเมตรที่ 110 เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านปากเจา เข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ 15 กิโลเมตร

 

 
อ.ทุ่งสง

อุทยานแห่งชาตินำตกโยง หรือ นำตกโยงใสใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อำเภอทุ่งสง อำเภอช้างกลาง อำเภอลานสกา อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอนาบอน มีสภาพป่าและทิวทัศน์อุดมสมบูรณ์ พื้นที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ทอดยาวตามแนวเหนือใต้ เป็นแหล่งต้นนำที่สำคัญของลุ่มนำตาปี ลุ่มนำ ปากพนงั และลมุ่ น้ำ?? กันตัง มียอดเขาเหมนเปน็ ยอดเขา สูงสุด สูง 1,307 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อุทยานฯ มีฝนตกชุกเกือบทั้งปี สามารถท่องเที่ยวได้ ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานฯ ได้แก่

-น้ำตกโยง เกิดจากเทือกเขารามโรม เขาปากแพรก และเขาโยง สูง 7 ชั้น กระแสนำรวมกันเป็นเกลียว จากหน้าผาสูง แต่ละชั้นมีความสวยงามและร่มรื่น เบื้องล่างมีแอ่งน้ำ กว้าง 30 เมตร มีน้ำตลอดปี น้ำตก ชั้นที่ 1 ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 300 เมตร มี บ้านพักบริการ สอบถามข้อมูล โทร. 0 7535 4967 www.dnp.go.th

- ถ้ำตลอด เป็นถ้ำเล็กสามารถเดินทะลุได้ตลอด จึง ได้ชื่อว่า ถำตลอด หรือ ถำหลอด ภายในมีพระพุทธรูป ปางไสยาสน์องค์ใหญ่ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็น เรื่องราวพุทธประวัติ เขียนโดยอาจารย์แนบ ทิชินพงศ์ จิตรกรที่มีชื่อเสียงชาวนครศรีธรรมราช รอบบริเวณถำ เป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อน การเดินทาง ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งสง 500 เมตร เลี้ยวซ้ายทางไปโรงพยาบาลทุ่งสง

- พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ ศาลเจ้าซำปอกง (หลวงพ่อโต) ตั้งอยู่บ้านนาเหนือ หมู่บ้านพัฒนา ภายในได้อัญเชิญกระถางธูปของพระซำปอกงมาสถิต เพื่อสักการะบูชา ต่อมาคณะกรรมการศาลเจ้า ซำปอกง (หลวงพ่อโต) มีมติให้ก่อสร้างพระรูปเหมือน พระโพธิสัตว์กวนอิม ความสูงขององค์พระรูป 19 เมตร เป็นพระรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ตามความเชื่อในพุทธศาสนานิกาย มหายาน ด้วยพระบุญญาบารมีแห่งองค์พระโพธิสัตว์ กวนอิม ผ้ปู ฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้สกั การะบูชาพระองค์ จะได้รับพรอันประเสริฐจากการแผ่พระเมตตา ของพระองค์ จะมีความสุขความเจริญ เพิ่มพูนด้วย ลาภ ยศ และทรัพย์

 

 

อ.นบพิตำ

จุดชมวิวทะเลหมอกบนยอดเขาเหล็ก หรือ ทะเลหมอกกรุงชิง ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านบางนบ ตำบลกรุงชิง คำว่า “กรุงชิง” มาจากชื่อต้นชิง เป็นพืชตระกูลปาล์มที่พบมากในแถบนี้ ส่วนชื่อ “เขาเหล็ก” มาจากบริเวณนี้เคยเป็นเหมืองแร่มาก่อน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ ชมทะเลหมอกตอนเช้า สามารถชมได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากอย่ตู ิดกับอุทยานแห่งชาติเขาหลวง และ อุทยานแห่งชาติเขานัน จึงทำให้ทะเลหมอกกรุงชิง ล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวดีเด่น ประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริม การท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล กลุ่มทะเลหมอกกรุงชิง หมู่ที่ 1 คุณกาญจนา โทร. 08 1080 1441 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ถึงแยก อำเภอท่าศาลา เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4140 ไปอำเภอนบพิตำ ถึงสามแยกอำเภอนบพิตำ เลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 4186 ระยะทาง 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาขึ้นสู่ทะเลหมอกกรุงชิง อีก 1 กิโลเมตร

ล่องแก่งคลองกลาย ต้นกำเนิดคลองกลาย มาจากป่า ต้นนำกรุงชิง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เส้นทาง ล่องแก่งมีสองเส้นทาง คือ ปากคลองพิตำ–ลานหินดาน ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง และเส้นทาง ที่สองคือ ปากคลองพิตำ–บ้านทุ่งใน ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง สอบถามข้อมูล อบต.กรุงชิง โทร. 0 7530 9610 กลุ่มทะเลหมอก กรุงชิง หมู่ที่ 1 คุณกาญจนา โทร. 08 1080 1441 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4186 เลย ทางเข้าทะเลหมอกกรุงชิง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้าน พิตำ ระยะทาง 8 กิโลเมตร จะถึงจุดเริ่มล่องแก่ง

น้ำตกกรุงชิง ตำบลกรุงชิง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขาหลวง นำตกมีขนาด 7 ชั้น ลดหลั่นตามความสูง ลงมา การเข้าชมนำตกกรุงชิงต้องเดินทางเท้าจาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนำตกกรุงชิง ถึงตัวนำตก ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร นำตกชั้นที่สวยที่สุดคือ ชั้น 2 “หนานฝนแสนห่า” เส้นทางผ่านป่าดิบชื้น แน่นทึบ เต็มไปด้วยพืชพรรณแปลกตา สอบถามข้อมูล หน่วยพิทักษ์ป่าต้นน้ำกรุงชิง หรืออุทยานแห่งชาติ เขาหลวง โทร. 0 7530 0494 www.dnp.go.th การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4186 เลย ทางเข้าทะเลหมอกกรุงชิง มีแยกซ้ายเข้าบ้านพิตำ ระยะทาง 10 กิโลเมตร

-ถำหงส์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานัน ภายในถำ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา และมีลักษณะพิเศษ คือ มีนำตกภายในถำมากกว่า 5 ชั้น การเดินชมถำ ต้องเตรียมสภาพร่างกาย เสื้อผ้า รองเท้า เพราะต้อง เดินลุยนำ ตามลำนำระยะทาง 300 เมตร เส้นทาง ในถำค่อนข้างเล็กและแคบ ลอดได้ทีละคน ต้องใช้ ความระมัดระวังในการไต่ลงไปในถำ ในฤดูฝนจะมี นำหลากจึงไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว และในถำมี ค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นถำที่เหมาะ สำหรับการศึกษาการกำเนิดของหินได้เป็นอย่างดี สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติเขานัน โทร. 0 7546 6108 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4186 มีแยกซ้าย เข้าบ้านพิตำ เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางเข้าไปนำตก กรุงชิง อีก 9 กิโลเมตร

 

 
อ.ปากพนัง

คอนโดนกนางแอ่น ทองคำขาวแห่งเมืองปากพนัง แต่เดิมนกนางแอ่นกินรัง (Edible–nest Swiftlet) ได้มาอาศัยอยู่ในบ้านไม้ 2 ชั้นริมฝั่งแม่นำปากพนัง เมื่อ พ.ศ. 2486 จากนั้นกระจายไปอยู่ที่ตึก 3 ชั้น “ศิลปะชิโนโปรตุกีส” ตึกแรกและตึกเดียว ในตลาดปากพนัง และกระจายไปอยู่ในอุโมงค์ ใต้อุโบสถวัดคงคาสวัสดิ์ และปัจจุบันกระจายอยู่ เต็มเมืองปากพนัง เนื่องจากตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนประชากรนก ได้อย่างรวดเร็ว มีการก่อสร้างอาคารตึกสูงเพิ่มขึ้น 250 หลัง เพื่อให้นกนางแอ่นกินรัง เกาะตามผนัง และแผ่นไม้ในอาคาร พื้นที่ที่เหมาะต่อการอยู่อาศัย คือ เกาะกลางทะเล ชายฝั่งทะเล เมืองที่อยู่ใกล้แม่นำ มีป่าชายเลนสมบูรณ์เป็นแหล่งกำเนิดอาหาร คือ แมลงขนาดเล็ก เมื่อถึงเวลาที่นกจะวางไข่ก็จะเริ่ม สร้างรัง โดยการสกัดสารจากต่อมนำลายมาทำรัง ใช้เวลา 30-35 วัน จากนั้นจะวางไข่ เมื่อลูกนก แข็งแรงบินได้แล้วจะทิ้งรังและเก็บรังนกจำหน่าย เชื่อว่าสามารถบำรุงร่างกายได้อย่างดี รังนกจึงมี ราคาแพงขึ้นอยู่กับคุณภาพของรัง 1 กิโลกรัมจะมี รังนกที่สมบูรณ์ 80-85 รัง นอกจากนั้น ยังมีการ แปรรูปรังนกพร้อมรับประทานจำหน่ายในปากพนัง รวมทั้งส่งไปขายต่างจังหวัดและต่างประเทศ

โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มนำปากพนัง อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ในอดีตพื้นที่ปากพนังเคยเป็นเมืองท่า เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่นำของภาคใต้ แต่ต่อมา ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายลง ชาวบ้านไม่สามารถ ทำการเกษตรได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้แก้ไขและบรรเทาปัญหาของ พื้นที่ลุ่มนำปากพนัง ภายหลังจากโครงการพัฒนา พื้นที่ลุ่มนำปากพนังเกิดขึ้น ความเจริญรุ่งเรือง เริ่มฟื้นตัว ชาวบ้านจึงพลิกฟื้นไร่นาปลูกข้าว ให้เป็นอู่ข้าว อู่นำ เหมือนอดีตอีกครั้ง พื้นที่ภายใน โครงการประกอบด้วยพิพิธภัฑณ์เฉลิมพระเกียรติ ประตูระบายนำ และกลุ่มอาคารพระตำหนัก ฯ สร้างขึ้นในโครงการสร้างบ้านให้พ่อ เพื่อเป็น พระตำหนักทรงงาน ถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จประทับ เป็นอาคารก่ออิฐ ถือปูน การประดับตกแต่งภายในเน้นศิลปวัฒนธรรม ภาคใต้ เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-15.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 0 7541 6138, 0 75416140 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 เลี้ยวขวา บริเวณสามแยก ไปอำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาอีก 2 กิโลเมตร จะถึงโครงการ พัฒนาพื้นที่ลุ่มแม่นำปากพนังอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ 

ล่องเรือชมแม่นำปากพนัง การล่องเรือชมแม่นำ ปากพนัง ตลอดเส้นทางจะได้ชมวิถีชีวีตของชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่นำ พร้อมกับชมโครงการพัฒนา พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชมป่าชายเลน ตลอดจนลำนำสายเก่าที่มีปล่อง โรงสีไฟโบราณที่เหลืออยู่ บ่งบอกถึงความเจริญ รุ่งเรืองของปากพนังครั้งในอดีต ในตอนเย็นจะได้เห็น นกนางแอ่นบินกลับบ้าน (คอนโดนก) เป็นจำนวนมาก ชมพระอาทิตย์ตก บรรยากาศสวยงาม สนใจล่องเรือ ชมแม่นำปากพนัง ติดต่อ เทศบาลเมืองปากพนัง โทร. 0 7551 7058, 0 7551 7266, 0 7551 7630 (เวลาราชการ)

วัดนันทาราม ถนนชายน้ำ ปากพนังฝั่งตะวันออก เดิมชื่อวัดใต้ เป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงพ่อผุด พระพุทธรูปหินทรายแดงศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดยังได้เก็บรักษาศิวลึงค์องค์ใหญ่องค์หนึ่ง สลักจากหินปูน พบที่โบราณสถานเขาคา อายุ ประมาณ 1,200 ปี ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14

 

 
อ.พรหมคีรี

พระตำหนักเมืองนคร บริเวณสวนผลไม้เก่าแก่ ของ ตระกูลทองสมัคร ผู้สร้างเรือนรับรองถวายในนาม ของชาวเมืองนครศรีธรรมราช เป็นที่ประทับของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในคราวที่เสด็จ มาทรงงาน บริเวณโดยรอบร่มรื่นด้วยไม้ผลและ ไม้ประดับ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30–17.00 น. เว้นวันพุธและเวลาที่พระราชวงค์เสด็จประทับ สอบถามข้อมูล โทร. 0 7539 6300 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 นครศรีธรรมราช–พรหมคีรี ผ่านตลาดพรหมโลก หลักกิโลเมตรที่ 21 ตรงไปผ่านสี่แยก ข้ามสะพาน นอกท่า แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนตากสินอนุสรณ์ มีป้ายบอกทางไปพระตำหนักเมืองนครเป็นระยะ ๆ

วัดเขาขุนพนม ตำบลบ้านเกาะ ใกล้กับพระตำหนัก เมืองนคร มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และ โบราณคดี บริเวณภายในวัดมีถำเขาขุนพนม มีบันได ขึ้นไปชมถำ 250 ขั้น ถำแห่งนี้ทะลุถึงกัน ภายในถำ มีกำแพงก่ออิฐถือปูน และใบเสมาเช่นเดียวกับ กำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้น ประดับ เครื่องลายครามจีน มีพระพุทธรูปสำริด 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด สันนิษฐานว่าเป็นที่ประทับ ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสิน เสด็จ มาผนวชจนสวรรคต) แต่บางหลักฐานว่าเป็นที่พักผ่อน สำหรับเจ้าหญิงเกศิณี ธิดาของเจ้านราสุริยวงศ์ เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชช่วง พ.ศ. 2312–2319 สอบถามข้อมูล โทร. 0 7539 6203 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 นครศรีธรรมราช-พรหมคีรี ผ่านตลาดพรหมโลก กิโลเมตรที่ 21 มีทางแยกขวาอีก 2.5 กิโลเมตร จะเห็นเขาขุนพนมตั้งอยู่

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราช ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ บริเวณเขาขุนพนม ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รางวัลดีเด่น ประเภทแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ พ.ศ. 2553 ให้ความรู้ในรูปแบบของนิทรรศการ ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ทางธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ดาราศาสตร์ และอวกาศ โดยเน้นเรื่อง ใกล้ตัวสัมผัสได้ เรียนรู้จากของจริง และนำไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ มีการจัดกิจกรรมการ ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เช่น การจัดค่ายวิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม การอบรมครูวิทยาศาสตร์ เปิดให้ เข้าชมทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ จัดเตรียมเต็นท์ ที่พักไว้บริการ สอบถามข้อมูล โทร. 0 7539 6363, 08 1978 1016 www.nakhonsci.com การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 นครศรีธรรมราช-พรหมคีรี ผ่านตลาดพรหมโลก กิโลเมตรที่ 21 มีทางแยกขวาอีก 2.5 กิโลเมตร ศูนย์วิทย์ฯ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดเขาขุนพนม

น้ำตกพรหมโลก ตำบลพรหมโลก เป็นนำตก ขนาดใหญ่ มีลานหินกว้างและสวยงามแห่งหนึ่ง เปิดให้ท่องเที่ยวได้ 4 ชั้น คือ หนานวังนำวน หนานวัง ไม้ปัก หนานวังหัวบัว และหนานวังอ้ายแล เมื่อ พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสนำตกแห่งนี้ และทรงจารึกพระ ปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร.” และ “ส.ก.” ไว้ที่หน้าผา นำตกชั้นที่ 1 (หนานวังนำวน) การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 นครศรีธรรมราช-พรหมคีรี กิโลเมตรที่ 20 มีทางแยก ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4132 อีก 5 กิโลเมตร

น้ำตกอ้ายเขียว หรือ นำตกในเขียว เป็นนำตก ขนาดใหญ่ มี 100 ชั้น จากหน้าผาสูง ทางอุทยานฯ อนุญาตให้ท่องเที่ยวได้ 9 ชั้น เช่น หนานช่องไทร หนานบังใบ หนานไม้ไผ่ ฯลฯ เหมาะสำหรับครอบครัว เพราะระดับนำไม่ลึก ปลอดภัย สามารถชมทิวทัศน์ ยอดเขาหลวงได้ที่นำตกแห่งนี้ การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับนำตกพรหมโลก สามารถเข้าได้สองทาง คือ สามแยกในเขียวและสี่แยก ในเขียว กิโลเมตรที่ 26 มีทางแยกซ้าย 5 กิโลเมตร

 

 
อ.พิปูน

อ่างเก็บนำกะทูน เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเล็งเห็นถึง ความทุกข์ยากของชาวบ้าน ที่ประสบเหตุการณ์ สูญเสียจากเหตุการณ์อุกทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2531 ทรงมีพระราชดำริให้ กรมชลประทาน สร้างอ่างเก็บนำขึ้น ใต้อ่างเก็บนำ คือ หมู่บ้าน กะทูนในอดีต อ่างเก็บนำมีทิวทัศน์ของทะเลสาบ และขุนเขาที่สวยงาม ได้รับการขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้” เป็นแหล่งเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้าน ควบคู่ไปกับ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริเวณริมอ่างเก็บนำมี ร้านอาหารและที่พัก และมีกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ ล่องเรือ ชมทะเลหมอกยามเช้า ยามเย็น ชื่นชมกับ นกนางนวลแกลบ ซึ่งอพยพมาอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก สอบถามข้อมูล ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านกะทูน โทร. 0 7548 3118, 08 7882 6127 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 ถึงแยก บ้านตาล เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 4015 ผ่านอำเภอช้างกลาง จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางตำบล จันดี แยกเข้าอำเภอพิปูนที่สี่แยกห้วยปริก อำเภอ ฉวาง ระยะทาง 10 กิโลเมตร

โครงการเซรามิก อยู่ในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 2 ในอดีตที่ดินเป็นเหมืองแร่ ทำให้ดินขาดความ อุดมสมบูรณ์ ไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลูก แต่จาก การสำรวจพบว่าดินในบริเวณนี้มีคุณสมบัติเหมาะสม สำหรับการทำเซรามิก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี องค์ประธาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง โครงการเซรามิกขึ้นใน พ.ศ. 2536 เพื่อเป็นการ สร้างงานให้กับราษฎรในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียง ให้ราษฎรมีความรักถิ่นฐานและพัฒนาชีวิตความ เป็นอยู่ให้ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ของโครงการฯ ที่ผลิตอยู่ใน ปัจจุบัน จัดอยู่กลุ่ม Stoneware เน้นขบวนการผลิต โดยใช้มือเป็นหลัก รูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นการเลียนแบบ ธรรมชาติ เช่น ใช้ใบไม้ ดอกไม้ สัตว์ชนิดต่าง ๆ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาชิ้นงานให้มีความหลากหลาย มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด สอบถามข้อมูล โทร. 0 7537 2500-1, 08 9588 5575

 

 
อ.ร่อนพิบูลย์

วัดเทพนิมิต หรือ วัดวัวหลุง สันนิษฐานว่าเป็น วัดที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนต้น โดยอาศัยจาก หลักฐานสถูปเจดีย์และใบเสมาคู่ที่ทำจากศิลาแลง ตลอดคำศิลาจารึกซึ่งได้ปรักหักพังไป ในอดีตสถานที่ ตั้งวัดเป็นป่าทึบ จนกระทั้งหลวงพ่อเทพธานี ธุดงค์ มาปฏิบัติธรรมในบริเวณวัดร้างแห่งนี้ ได้ชักชวน ชาวบ้านช่วยกันพัฒนา และสร้างกุฏิหลังเล็ก ๆ ขึ้น รวมทั้งสร้างศาลาโรงธรรมเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อสร้างวัดเสร็จนั้น ขุนรัตนบุรีพร้อมด้วยชาวบ้าน ได้นิมนต์พระอาจารย์เจ้ย แห่งวัดปัง ตำบลควนชุม มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรก หลังจากเจ้าอาวาส มรณภาพ พ่อท่านซัง ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส สืบแทน และได้พัฒนาวัดและอบรมสอนธรรมะแก่ ชาวบ้าน จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอธิการซัง พร้อมกับ ตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์บวชบุตรหลานในแขวง ตำบลควนพัง และใน พ.ศ. 2467 ได้พระราชทาน สมณศักดิ์ “พระครูอรรถธรรมรส” พระครูอรรถธรรมรส บรรดาศิษยานุศิษย์ และ ผู้เคารพเลื่อมใสศรัทธา นิยมเรียกท่านว่า พ่อท่าน สมภารซัง หรือพ่อท่านซัง เป็นพระอมตะเถระผู้ทรง บริสุทธิ์ด้วยศีล ปัญญา สมาธิ เมตตาธรรม เคร่งครัด ในพระธรรมวินัย ทรงคุณวุฒิเชี่ยวชาญ แตกฉานใน แขนงไสยเวทวิทยาคม ทรงขลังด้วยอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ วาจาสิทธิ์ ยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน เลื่องลือไปทั่ว เมืองนครฯ เมืองลุง เมืองตรัง ฯลฯ วัตถุมงคลของ พ่อท่านสมภารซังเป็นที่เคารพบูชาของชาวปักษ์ใต้ และคนทั่วไป

วัดร่อนนา ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลร่อนพิบูลย์ สันนิษฐาน ว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะยังคงเหลือ ซากปรักหักพังเป็นหลักฐาน พระแม่เศรษฐี เป็น พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร สูง 1.70 เมตร เป็นพระ ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่เคารพสักการะบูชา ของชาวนครศรีธรรมราช เมื่อประสบความสำเร็จ ดังที่บนบานไว้ ก็จะนำดอกไม้ธูปเทียน ปิดทองคำเปลว และจุดประทัดแก้บน

วัดถลุงทอง พ่อท่านคลิ้ง หรือหลวงปู่คลิ้ง พระภิกษุ ผู้เคร่งในพระธรรมวินัย เป็นที่เคารพบูชาของชาว นครศรีธรรมราช นามเดิมว่า คลิ้งฉิมแป้น ได้บรรพชา เป็นสามเณร ณ วัดเชิงแตระ ตำบลท้ายสำเภา และ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดป่าตอ โดยมีพระขำ เป็นอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ศึกษา พระธรรมวินัยที่สำนักถลุงทอง ใน พ.ศ. 2469 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดถลุงทอง และเมื่อ พ.ศ. 2503 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน ชื่อ พระครูคลิ้งจนฺทสิริ หลวงปู่คลิ้งเคร่งในพระธรรมวินัย มาตั้งแต่เริ่มบวช มีใจเอื้ออารีย์ต่อคนทั่วไป ได้รับการ เคารพนับถือจากชาวบ้านว่าเป็นพระที่ควรแก่การ นับถือบูชารูปหนึ่ง วัตถุมงคลของหลวงปู่คลิ้งเป็นที่ เคารพบูชาของชาวปักษ์ใต้และคนทั่วไป

เขารามโรม จุดชมทัศนียภาพของจังหวัด นครศรีธรรมราชที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ครอบคลุม อำเภอทุ่งสง อำเภอนาบอน อำเภอลานสกา อำเภอ ร่อนพิบูลย์ และอำเภอช้างกลาง เทือกเขาสูงทอดยาว ตามแนวเหนือใต้ ได้แก่ เขาเหมน เขาทง เขาวังหีบ เขาพระ เขาหลวง เขาโยง เขารามโรม เขาปากแพรก เขาปลายเปิก และเขาคูหา มีสภาพป่าสมบูรณ์ ประกอบด้วยทิวทัศน์ฯ และนำตกที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ยอดเขาเหมน ยอดเขาคูหาสวรรค์ นำตกโยง นำตกปลิว นำตกคลองจัง นำตกหนานเตย นำตก หนานปลิว นำตกหนานโจน นำตกคูหาสวรรค์

น้ำตกแม่เศรษฐี หมู่ที่ 7 ตำบลร่อนพิบูลย์ เป็นนำตก ที่มีลานหินกว้าง แอ่งนำเหมาะสำหรับการเล่นนำ บริเวณใกล้น้ำตกมีที่พัก ร้านอาหาร ไวบ้ ริการสำหรับ นักท่องเที่ยว ห่างจากทางหลวงหมายเลข 403 ระยะทาง 1 กิโลเมตร

น้ำตกคูหาสวรรค์ มี 7 ชั้น พื้นที่โดยรอบเป็นป่า ดงดิบและป่าดิบเขา เป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม อยู่ห่างจาก ตลาดอำเภอร่อนพิบูลย์ 11 กิโลเมตร และเดินเท้า ต่ออีก 400 เมตร

นำตกวังศิลารักษ์ มี 3 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงาม ที่แตกต่างกัน ริมแอ่งนำบางช่วงมีลักษณะเป็น หาดทรายที่ร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ บริเวณ นำตกมีร้านอาหาร ร้านขายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม แม่บ้าน ผลิตภัณฑ์ลูกจันทน์เทศแปรรูปหลากหลาย ให้เลือกซื้อเป็นของฝาก

น้ำตกอ่าวอ้ายยาง บนเขารามโรม นำตกชั้นที่ 1 “วังน้ำย้อย” เป็นธารน้ำตกที่ไหลจากเทือกเขาด้านบน ลงมา และมีน้ำย้อยจากซอกหินของหน้าผา น้ำใส สะอาดดื่มได้ ด้านบนจะพบ “น้ำตกคลองทอง นางโยน” มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนเล่นนำบริเวณนี้มาก ขึ้นไปด้านบนอีกจะพบ “น้ำตกแพรกนำแดง” ซึ่งนำบริเวณนี้มีสีแดงแต่เป็นนำใส ถัดไปเป็น “หน่วยจัดการนำตกปากพนัง” ของกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช “น้ำตกแพรกอ้ายทวย” เป็นธารนำตกเล็ก ๆ เลยขึ้นไปหนึ่งกิโลเมตรก็จะพบ “น้ำตกอ่าวอ้ายยาง” เป็นนำตกที่สวยงามและยัง คงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด การเดินทางศึกษา เส้นทางจะต้องมีผู้ชำนาญทาง การเดินทาง จากตัวอำเภอร่อนพิบูลย์ไปยังแยก บ้านไม้หลา หมู่ที่ 4 ตำบลหินตก เลี้ยวซ้ายบนถนน ไปลานสกา 10 กิโลเมตร จะถึงบ้านไสเงาะ หมู่ที่ 8 ตำบลหินตก ตลอดเส้นทางไปยังนำตกอ่าวอ้ายยาง เป็นป่าดิบชื้น

 

 
อ.ลานสกา

อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอ ลานสกา อำเภอฉวาง อำเภอเมือง อำเภอพิปูน อำเภอพรหมคีรี อำเภอช้างกลาง และอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มรดกทางธรรมชาติที่สำคัญ ที่สุด ประกอบด้วย “ยอดเขาหลวง” เป็นยอดเขา ที่สูงที่สุดในภาคใต้ 1,835 เมตร จากระดับทะเล มีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของภูมิภาคนี้ เป็นพื้นที่ต้นนำลำธารหลายสายที่ไหล หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินภาคใต้ตอนกลาง มีสถานที่ให้ พักผ่อน เช่น นำตก ภูเขา ยอดเขา ทิวทัศน์ และมี ความหลากหลายทางชีวภาพที่ยังคงความสมบูรณ์ โดยเฉพาะป่าเฟิร์นโบราณและกล้วยไม้หายาก นานาชนิด อุทยานแห่งชาติเขาหลวงจึงได้รับการ ขนานนามว่า “หลังคาสีเขียวแห่งภาคใต้” “ขุนผา มหาสดำ” ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รางวัล ยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ. 2541 สอบถามข้อมูล ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เขาหลวง ตั้งอยู่ที่นำตกกะโรม โทร. 0 7530 0494 www.dnp.go.th สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานฯ มีดังนี้

-เส้นทางสู่ยอดเขาหลวง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน ภาคใต้ ระดับความสูง 1,835 เมตร จากระดับทะเล การเดินทางไป-กลับ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน ระหว่างทางจะได้พบกับสภาพป่าครบทุกประเภท พรรณไม้ที่แปลกตาหายาก เช่น ต้นมหาสดำ เป็นพืช เด่นขึ้นอยู่ตามหุบเขา มีลำธารนำไหลผ่าน กล้วยไม้ป่า สิงโตอาจารย์เต็ม สิงโตใบพัดสีเหลือง กุหลาบพันปี เฟิร์นบัวแฉกใหญ่ และบัวแฉกใบมน เป็นต้น ฤดูกาล ที่เหมาะสมในการพิชิตยอดเขาหลวง คือ ระหว่าง เดือนมกราคม–กรกฎาคม สอบถามข้อมูลการเดินป่า และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ อุทยานแห่งชาติ เขาหลวง โทร. 0 7530 0494 ศูนย์บริการ นักท่องเที่ยวหมู่บ้านคีรีวง โทร. 0 7553 3370

-นำตกกะโรม ต้นนำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช ไหลลงมาจากยอดเขา ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น มีหนาน หรือชั้น 19 ชั้น แต่เปิดให้ท่องเที่ยว 7 ชั้น เช่น หนานผึ้ง หนานนำรวง หนานดาดฟ้า และหนาน สอยดาว เป็นหนานที่สูงสุด 1,400 เมตร นำตก แห่งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งทรงเสด็จประพาสหัวเมือง ปักษ์ใต้ได้เสด็จมาทอดพระเนตรและทรงจารึก พระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร และ ว.ป.ร ไว้ที่หน้าผา ตรงหนานดาดฟ้า -การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 แยกซ้าย เข้าทางหลวงหมายเลข 4015 อีก 20 กิโลเมตร ทางเข้านำตกอยู่ด้านขวามือ -ถอดรหัสป่า รางวัลกินรีโปรแกรมท่องเที่ยวดีเด่น พ.ศ. 2551 เป็นโปรแกรมเดินป่ากึ่งอบรม กึ่ง ผจญภัย เน้นการนำเที่ยวให้ความรู้ ผจญภัย และ ประสบการณ์เพื่อยังชีพในป่าได้แบบพรานป่า ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาหลวง สามารถเลือกวิธีการเรียนรู้ เมื่ออยู่ในป่า เช่น การฟังเสียงธรรมชาติ เสียงแมลง เสียงสัตว์ แกรอยสัตว์ป่า สังเกตทิศทางในการเดินป่า การนั่งห้าง ฝึกการดมกลิ่น ชิมรสใบไม้ และผลไม้ป่า รวมถึงส่งเสริมการรักษามรดกภูมิปัญญาพราน สอบถามข้อมูล บริษัท ทาร์ซาน แอดเวนเจอร์ ทัวร์ โทร. 08 1824 8880, 08 9909 8533

บ้านคีรีวง ประวัติของบ้านคีรีวง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2531 เกิดมหาอุทกธรณีภัย หมู่บ้าน ถูกนำพัดหายไปกว่า 100 หลัง ชาวคีรีวงได้รักษา พระอุโบสถของวัดและบ้านที่ประสบภัย ไว้เป็น อนุสรณ์สถาน ชุมชนคีรีวงเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่อพยพ ไปอาศัยอยู่เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน ได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยว รางวัลยอดเยี่ยมชุมชน ต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พ.ศ. 2541 ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากเป็นชุมชนที่ มีวิถีชีวิตแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือ การทำสวนผลไม้ผสมเรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนบ้านคีรีวงแบ่งออกเป็น หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มมัดย้อม กลุ่มสมุนไพร และกลุ่ม ทุเรียนกวน และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว เป็นธุรกิจใหม่ของชุมชน คือการเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์และมีศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชม วิถีชีวิตของชุมชนคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะใน ฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน สอบถาม ข้อมูล ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหมู่บ้านคีรีวง โทร. 0 7553 3370 หรือประธานชมรมการท่องเที่ยว รองนายก อบต. กำโลน โทร. 09 8057 5652 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 บริเวณ กิโลเมตรที่ 9 เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านคีรีวงอีก 9 กิโลเมตร หรือ นั่งรถสองแถวจากตลาดยาวใน อำเภอเมือง ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวะ ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00น. ค่าโดยสาร 25 บาท

 

 
อ.สิชล อุทยานแห่งชาตินำตกสี่ขีด อยู่แนวเทือกเขา นครศรีธรรมราชตอนบน ครอบคลุมพื้นที่อำเภอ สิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มียอดเขาคีโหมดเป็นยอดเขา สูงที่สุด สูง 1,303 เมตร ปกคลุมด้วยป่าดิบชื้น มีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ พันธุ์ไม้ที่พบ ได้แก่ ไม้ในวงศ์ ไม้ยาง ตะเคียนทอง หลุมพอ จำปาป่า สัตว์ป่าที่พบ เช่น สมเสร็จ เลียงผา นกประจำถิ่นภาคใต้ที่หายาก อากาศค่อนข้างเย็นสบาย สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด โทร. 0 7547 0708 www.dnp.go.th สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานฯ ได้แก่

-น้ำตกสี่ขีด บริเวณคลองท่าโคก เป็นนำตกหินปูน จุดเด่นคือตะไคร่น้ำไม่จับ ธารน้ำมีสีเขียวมรกต มีแอ่งนำกว้าง สามารถลงเล่นนำได้ บริเวณนำตก สวยงาม ร่มรื่น

-ถ้ำเขาพับผ้า ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร เป็นถำขนาดเล็กที่มีหินงอกหินย้อย สวยงามมาก มีความลึกจากปากถำ 50 เมตร ในถำเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ชนิดหนึ่ง คือ กง (จงโคร่ง) ขนาดใหญ่ การเข้าไปชมควรมีเจ้าหน้าที่นำทาง

-ถ้ำสวนปราง บริเวณบ้านสวนปราง เป็นถำหินปูน ขนาดใหญ่ ภายในกว้างขวาง ความลึกจากปากถำ 300 เมตร มีหินงอกหินย้อยตามผนังถำคล้ายผ้าม่าน ได้รับฉายาว่า “วิมานค้างคาว” เพราะมีค้างคาวอาศัย เป็นจำนวนมาก การเข้าไปชมควรมีเจ้าหน้าที่นำทาง การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 นครศรีธรรมราช-สิชล ระยะทาง 69 กิโลเมตร ถึง สี่แยกต้นพยอม เลี้ยวซ้ายระยะทาง 15 กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ระยะทาง 52 กิโลเมตร ถึงสามแยกเขาหัวช้าง เลี้ยวขวาระยะทาง 10 กิโลเมตร

เขาพลายดำ หรือ มังกรทะเลใต้ เป็นภูเขาที่ ติดทะเล แนวรอยต่อเขตอำเภอขนอม และอำเภอ สิชล มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น หาดทราย โขดหินชายทะเล ป่า ภูเขา และนำตก เป็นที่ตั้งของ สถานีพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาพลายดำ มีอ่าวท้องยาง เป็นหาดทรายยาวสีขาว นำทะเลใส สามารถลงเล่นนำได้ มีที่พักและร้านอาหารบริการ นักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล อบต. ทุ่งใส โทร. 0 7537 6110, 0 7537 6115 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 นครศรีธรรมราช-สิชล ถึงกิโลเมตรที่ 98 แล้วเลี้ยวขวา เข้าหมู่บ้านบางปอ 10 กิโลเมตร ถึงอ่าวท้องยาง และ เดินทางต่ออีก 5 กิโลเมตร จะถึงเขาพลายดำ

แหล่งโบราณคดีเขาคา โบราณคดีเขาคามีอายุกว่า 1,500 ปี บริเวณเขาคาเป็นศาสนสถานสำคัญในลัทธิ ไศวนิกายของศาสนาพราหมณ์ เคารพนับถือพระศิวะ หรือพระอิศวร เป็นเทพเจ้าสูงสุด มีเขาคาประดุจ เขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง มีการค้นพบโบราณวัตถุ ที่ใช้ในพิธีกรรม เช่น ฐานโยนี ศิวลึงค์ ท่อโสมสูตร (ท่อนำมนต์) ตลอดจนซากโบราณสถาน กรมศิลปากร ได้ทำการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อพ.ศ. 2540 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 นครศรีธรรมราช-สิชล ถึงกิโลเมตรที่ 99 เลี้ยวซ้าย เข้าไปอีก 7 กิโลเมตร
 
     
     
 
ที่มาของภาพ และข้อมูล
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ท่องเที่ยวทะเลไทย
อ่าวไทยตะวันตก
เที่ยวตลอดทั้งปี คลื่นลมแรง ในช่วงฤดูฝน บริเวณ ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี ทะเลประจวบฯ
 
ทะเลใต้ ฝั่งอันดามัน
อันดามันเหนือ ปลอดมรสุม พ.ย. - เม.ย. บริเวณ หมู่เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย หมู่เกาะสุรินทร์ / อันดามันใต้ ปลอดมรสุม ต.ค.-พ.ค บริเวณตั้งแต่ภูเก็ตลงไปถึงตะรุเตา
 
     
อ่าวไทยตะวันออก
พฤศจิกายน - เมษายน ปลอดลมมรสุม อ่าวไทยตอนบนบริเวณ พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด


 
ทะเลใต้ ฝั่งอ่าวไทย
พฤษภาคม-ตุลาคม ปลอดมรสุม อ่าวไทยตอนกลาง และตอนล่าง บริเวณ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง และกองหินโลซิน
 
   
 
* สำหรับผู้ประกอบการที่พัก บังกาโล รีสอร์ท, ร้านอาหาร, ร้านค้า และสถานประกอบการอื่นๆ สามารถแจ้งเพิ่ม แก้ไขข้อมูลรายละเอียดสถานประกอบการ และโปรโมชั่นได้ฟรี
ผ่านทาง e-mail : seathailandtoday@ .com  
 
:: พันธมิตร(Partner) กับ ThaiFloatingMarket.com - Beaches
ร่วมเป็นพันธมิตร(Partner) กับเราเพื่อสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจของท่าน
แบบเพื่อนบ้าน (ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น)
  ผู้ประกอบการสามารถแจ้งข้อมูลรายละเอียดของที่พัก บังกะโล รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านค้า ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการต่างๆ ของผู้ประกอบการให้กับ ThaiFloatingMarket.com - Beaches เพื่อรับหน้าเว็บเพจประชาสัมพันธ์ฟรี 1 หน้า พร้อมทั้งรับสิทธิ์แจ้งแก้ไขรายละเอียด และสิทธิพิเศษอื่นๆ อ่านต่อ >>
แบบเพื่อนใจดี (นำสินค้าหรือบริการของท่าน มาแลกบริการของเรา)
  รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานเหมือนเพื่อนบ้าน และรับมากกว่า เช่น โฆษณาฟรีในตำแหน่งแบนเนอร์ว่าง, ประชาสัมพันธ์ผ่านข่าวหน้าแรก ThaiFloatingMarket.com - Beaches , fanpage, Google+ และ twitter ส่วนลด และบริการโฆษณาฟรี /บริการออกแบบเว็บไซต์ และสิทธิพิเศษอื่นๆ อ่านต่อ >>

อ่านรายละเอียดคลิกที่นี่
สำหรับผู้ประกอบการ  
ติดต่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์ ดูรายละเอียดตำแหน่ง Banner อัตราค่าโฆษณา และโปรโมชั่น อ่านรายละเอียด คลิกที่นี่  
   
   
สะสมแต้ม จิกทะเลพลัส
ลงโฆษณากับเราวันนี้ รับแต้มสะสมเพื่อแลกรางวัลโฆษณาฟรีกับ ThaiFloatingMarket.com - Beaches
 
     
 
:: เมนูทะเลไทย

ข้อมูลเมืองชายทะเลไทย
โปรโมชั่นทะเลไทย
การเดินทาง
ข่าว บทความ ทะเลไทย
เที่ยวทะเลไทย
   อ่าวไทยตะวันออก
   อ่าวไทยตะวันตก
   ทะเลใต้ ฝั่งอันดามัน
   ทะเลใต้ ฝั่งอ่าวไทย

กิจกรรมเที่ยวทะเลไทย
เส้นทางท่องเที่ยวทะเลไทย
ปฏิทินท่องเที่ยว
สัมผัสทะเลไทย
บันทึกความทรงจำ
ที่พัก บังกาโล รีสอร์ท
รีวิวที่พัก บังกาโล รีสอร์ท
ร้านอาหาร กาแฟ เครื่องดื่ม
รีวิวที่กิน ร้านอาหาร
ห้องภาพ



 
A2
A3